Sunday, August 7, 2011

นานี่ฮีโร่! ผีสุดยอดตาม 2 เม็ดพลิกเชือดซิตี้ 3-2

แมนฯ ซิตี้ 2-3 แมนฯ ยูไนเต็ด
ศึก "เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2011" เปิดม่านฤดูกาลใหม่ 2011-12 จบลงอย่างเร้าใจเมื่อ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์จากการตามหลัง 2-0 มาเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ 3-2 โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากนานี่
เกมเอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ครั้งที่ 89 เป็นเกมดาร์บี้แมตช์ของเมืองแมนเชสเตอร์ ที่เพิ่งจะเคยพบกันเป็นครั้งที่ 2 ในรายการนี้ โดยฝ่าย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงสนามในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ

แมนฯ ยูไนเต็ด จัดทัพชุดใหญ่ลงสนามเต็มสูบ โดยมีตัวใหม่อย่าง ดาวิด เด เคอา ลงเป็นผู้รักษาประตู และแอชลี่ย์ ยัง ประจำการทางปีกซ้าย มี เวย์น รูนี่ย์ ยืนเป็นหัวหอกในแนวรุก

เกมเปิดฉากมาอย่างเร้าใจ โดยทั้งสองทีมต่างเปิดฉากบดกันอย่างเต็มที่ไม่มีใครยอมใคร เรียกว่ามีจังหวะปะทะหนักๆ ให้เห็นกันตลอด ไม่เหมือนเกมการกุศลเลยแม้แต่น้อย โดยเกมช่วงต้นเป็นทางแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เล่นได้เหนือกว่าบงการเกมได้ชัดเจนกว่า

การเข้าทำของแมนฯ ยูไนเต็ด ดูหลากหลายและน่ากลัวสามารถป้วนเปี้ยนจวนเจียนที่จะได้ประตูหลายครั้ง แต่แนวรับของซิตี้ ก็สามารถป้องกันในจังหวะสุดท้ายได้ตลอด ยกเว้นลูกฟรีคิกของ เวย์น รูนี่ย์ และแอชลี่ย์ ยังที่ปั่นบอลได้ใกล้เคียงจะได้ประตูอย่างยิ่ง

แต่มาถึงนาทีที่ 37 แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะลูกฟรีคิก ดาวิด ซิลบา เปิดโค้งเข้าไปถึง โจเลียน เลสค็อตต์ ขึ้นโขกบอลเข้าประตูไป เป็นประตูขึ้นนำในเกมนี้

ก่อนหมดครึ่งแรกแค่อึดใจ แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ประตูหนีห่างออกเป็น 2-0 ในจังหวะที่ตัดบอลได้ก่อนที่บอลจะมาถึง เอดิน เชโก้ และหัวหอกบอสเนียน ก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเมื่อตัดสินใจซัดไกลจากระยะกว่า 30 หลาบอลพุ่งกระเด้งพื้นก่อนผ่านมือ เด เคอา เข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้เกมจบลงครึ่งแรกที่สกอร์นี้

ครึ่งหลัง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสนิใจถอด ไมเคิล คาร์ริค, ริโอ เฟอร์ดินานด์ และเนมันย่า วิดิช โดยส่งทอม เคลเวอร์ลีย์, ฟิล โจนส์ และจอนนี่ อีแวนส์ ลงสนามแทน สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนบอล

แต่การแก้เกมดังกล่าวกลับได้ผลเมื่อแมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 51 จากจังหวะลูกฟรีคิกของ แอชลี่ย์ ยัง เปิดเข้ามาเข้าทางของ คริส สมอลลิง กระโดดแปบอลเปลี่ยนทางเข้าไป

จากนั้นอีก 6 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จเป็น 2-2 จากการประสานงานขั้นเทพต่อบอลกันต่อเนื่องกว่า 10 จังหวะก่อนที่จะมาจบที่ นานี่ ได้หลุดเข้าไปชิพบอลเข้าไปสู่ตาข่ายอย่างเหนือชั้นที่สุด

หลังจากตีเสมอได้ เกมเป็นของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เปิดฉากบดขยี้อย่างเมามัน โดยที่แมนฯ ซิตี้ ก็พยายามตอบโต้เท่าที่จะทำได้แล้ว แต่สุดท้ายเกมกลับจบลงด้วยชัยชนะของแมนฯยูไนเต็ด

โดยเป็นช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 94 เริ่มจากจังหวะลูกเตะมุมของแมนฯ ซิตี้ ที่พลาดโดนสวนกลับมา และกลายเป็น นานี่ ที่เข้าถึงบอลได้ก่อนแว็งต์ซองต์ กอมปานีย์ ก่อนจะโฉบเอาบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปเลื้อยหลบ โจ ฮาร์ท ก่อนจะส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส, แว็งต์ซองต์ กอมปานีย์, โจเลียน เลสค็อตต์, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ (กาแอล กลิชี่ 73), เจมส์ มิลเนอร์ (อดัม จอห์นสัน 67), ดาวิด ซิลบา, ไนเจล เดอ ยอง, ยาย่า ตูเร่, เอดิน เชโก้, มาริโอ บาโลเตลลี่ (แกเร็ธ แบร์รี่ 59)

แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาวิด เด เคอา, ปาทริซ เอวร่า (ราฟาเอล 71), ริโอ เฟอร์ดินานด์ (ฟิล โจนส์ 46), คริส สมอลลิง, เนมันย่า วิดิช (จอนนี่ อีแวนส์ 46), อันแดร์สัน, ไมเคิล คาร์ริค (ทอม เคลเวอร์ลีย์ 46), นานี่, แอชลี่ย์ ยัง, เวย์น รูนี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็ค (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 89)

0 comments:

Post a Comment