"ชวรัตน์" วันที่ถอดชุด "หุ่นเชิด" "ไม่มีงูเห่า...เราพร้อมเป็นฝ่ายค้านแล้ว"
"ชวรัตน์ ชาญวีรกูล" เคยประกาศว่าจะกวาดที่นั่ง ส.ส.ไม่น้อยกว่า 70 ที่นั่ง หวังสร้างประวัติศาสตร์เป็นพรรคอันดับ 3 ชิงอำนาจต่อรองสูงลิ่ว เพื่อให้มีสิทธิ์ได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลแต่ผลการเลือกตั้งที่ออกมาก ลับ "ผิดฝาผิดเป้า" ไปแบบ "ครึ่งต่อครึ่ง" ได้เพียง 34 ที่นั่ง ถูกเขี่ยกระเด็นไปเป็นฝ่ายค้านแบบไม่ทันตั้งตัว
ถึงเวลาที่ "ภูมิใจไทย" ต้องยกเครื่องขนานใหญ่ เพื่อบรรลุเป้าหมายเพื่อ กลับมาเป็นพรรครัฐบาลอีกครั้ง
"ประชา ชาติธุรกิจ" มีโอกาสได้ส่องวิสัยทัศน์ของ "ชวรัตน์" ในวันที่พรรคของเขาได้พลิกขั้วไปเป็นฝ่ายค้าน กับความตั้งใจที่จะลบคำปรามาส และ ข้อกล่าวหาว่ายังไม่พร้อมในการทำหน้าที่จับทุจริตรัฐบาล กับการปรับโครงสร้าง ปรับยุทธศาสตร์ให้สอบรับ กับ "หน้าที่ใหม่" ในยุคพรรคเพื่อไทยเรืองอำนาจ
- ทำไมผลการเลือกตั้งต่ำกว่าเป้าหมายแบบครึ่งต่อครึ่ง
หาก มองในแง่ประวัติการทำงานของพรรคที่เพิ่งก่อตั้งมาได้ 2 ปีเศษ ๆ เราได้ ส.ส.แค่ 34 คน ก็ถือว่าน่าพอใจ หาก ดูพรรคอื่นที่เป็นพรรคเก่าแก่กว่าเราก็ยังได้ ส.ส.น้อยกว่าของเราเยอะ ส่วนพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ก็มีโครงสร้างเก่าแก่กว่าของเรา แต่ภูมิใจไทยเป็นพรรคใหม่เลย เราต้องใช้เวลาในการทำงาน ซึ่งตอนนี้เราเป็นฝ่ายค้านครั้งแรก จากเดิมที่เป็นพรรครัฐบาลมาโดยตลอด
- ภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้านพร้อมแล้ว
ก็ ดีครับ....จะได้ทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ทำงานให้ครบวงจรของการเป็นพรรคการเมือง เป็นได้ทั้งรัฐบาล เป็นได้ทั้งฝ่ายค้าน ประชาชนจะเป็นผู้พิสูจน์ว่าเราจะดีหรือไม่ดี มีคุณภาพแค่ไหนในการเลือกตั้งครั้งหน้า
เราเป็นฝ่ายค้าน เราก็ต้องค้านให้เป็นประโยชน์ คือเป็นฝ่ายตรวจสอบ เมื่อรัฐบาลทำตรงไหนไม่ดี เราก็ต้องทำให้เขาเห็นเพื่อให้แก้ไข
- มีจุดบกพร่องตรงไหนถึงได้ที่นั่งแค่ 34 เสียง
ผม คิดว่าเราไม่ได้บกพร่อง แต่กระแสของพรรคเพื่อไทยเขาแรง เราสู้เขาไม่ได้ด้วยกระแสที่เขาทำมาตั้งหลายปีมาแล้ว มีการปลูกฝังความคิดลงไปลึก
- เป็นไปได้หรือไม่ที่ประชาชนอาจไม่ชอบนโยบายของภูมิใจไทย
ก็ไม่น้อยนะครับ คือเราเริ่มจากศูนย์มาเนี่ย (หัวเราะ) เรามีประชาชนมาลงคะแนนให้กับ ส.ส.บัญชีรายชื่อตั้งล้านกว่าคะแนน
- จุดอ่อนที่ควรปรับปรุงเร่งด่วนคืออะไร
(นิ่ง คิด) ก็คงหาสมาชิกที่มีวุฒิภาวะสูง ๆ เพื่อสร้างความศรัทธาให้กับประชาชน คือเราต้องเพิ่มสมาชิกที่มีชื่อเสียงภายนอกเข้ามาร่วมงานกับพรรคให้มากกว่า นี้
- แค่ดึงคนภายนอกที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วมงานกับพรรคจะเพียงพอที่ทำให้ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นหรือ
ก็...ถ้ามีบุคลากรเราก็ต้องขยายงานบริการประชาชน
- พรรควางระบบการตรวจสอบรัฐบาลในการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านหรือยัง
ก็ มีครับ เพราะคุณสมบัติของฝ่ายค้านเราก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง สำคัญที่สุดคือการตรวจสอบความถูกต้องในการบริหารประเทศของรัฐบาล และขณะนี้เราพร้อมสำหรับการทำหน้าที่ฝ่ายค้านแล้ว โดยเรามีการแบ่งการตรวจสอบด้านการปกครอง เศรษฐกิจ การป้องกันประเทศ การปราบปรามยาเสพติด ซึ่งกำลังหาประธานในแต่ละชุดอยู่
- กับกระแสข่าวว่ามีงูเห่าเกิดขึ้นในพรรคภูมิใจไทยจะชี้แจงอย่างไร
ไม่ มีหรอกครับเรื่องงูเห่า เพราะพรรคเราอยู่ด้วยกันอย่างเป็นเอกภาพ มีความสามัคคีกันในพรรค ส่วนในอนาคตจะมีหรือไม่ไม่มีใครทราบเพราะเรื่องยังไม่เกิด
- 2 ปีที่บริหารมหาดไทย มีอะไรพอใจ ไม่พอใจ
เป็น กระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ผมได้เข้าไปปฏิบัติงานตามบทบัญญัติของกระทรวงมหาดไทย และตามที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาเอาไว้ ทุกอย่างเป็นไปที่น่าพอใจ
- มีการวิจารณ์ว่ากระทรวงมหาดไทยในยุคภูมิใจไทยเป็นยุคเสื่อม
อ๋อ...ก็ ต้องวัดด้วยผลงานสิครับ จะมาพูดว่าลอย ๆ ว่าดีหรือเสื่อมไม่ได้ ถามว่าตรงไหนเสื่อมก็ว่ากัน มาเลย ไม่ใช่ว่ามาพูดว่าอยู่ในยุคเสื่อม เสื่อมยังไง แล้วดีดียังไงเราจะได้บอกไป
- ในสายตาท่านมองว่าไม่เสื่อม
คือ...เรา จะบอกว่าเราดีมากก็ไม่อยากพูด ให้ประชาชนเป็นผู้พิสูจน์ และให้คะแนน แต่เรื่องเสื่อมผมยังไม่เห็นว่าเสื่อมอย่างไร เพราะเราแค่ ของใหม่ ส่วนของเก่าเราก็รักษาเอาไว้
- เรื่องการทุจริตในกระทรวงมหาดไทย เช่น การทุจริตโครงการเช่าระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ประกอบตามโครงการจัดทำระบบ ให้บริการประชาชนทางด้านการทะเบียนและบัตรแบบใหม่จำนวน 3,490 ล้านบาท และทุจริตการสอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ที่ปรากฏออกมาจะตอบสังคมอย่างไร
ทุกอย่าง ต้องพิสูจน์ได้ ถ้าพิสูจน์ ไม่ได้ว่าผิดหรือไม่ผิด แล้วมาว่าทุจริต ก็คงไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องของผู้ที่เสียผลประโยชน์ หรือคนที่ถูก ลิดรอนอำนาจไปหาเรื่องที่จะมาวิพากษ์ วิจารณ์ ถ้ามันผิดมันต้องบอกเลยว่าผิดตรงไหน ถามว่าทุจริตแล้วมันมีใบเสร็จหรือไม่ ถ้าผิดมันต้องมีใบเสร็จ
- ความเป็นจริงการทุจริตปกติมันหา ใบเสร็จไม่ได้อยู่แล้ว
ก็ นั่นสิครับ เพราะฉะนั้นการทุจริตไปหาใบเสร็จมาผมก็ไม่พูด ไม่จำเป็นต้องหาใบเสร็จมา แต่คนที่กล่าวหาว่าทุจริตต้องชี้แจงมาว่าผิดตรงไหน
- ที่มีเสียงวิจารณ์เรื่องทุจริต ชี้แจงสังคมได้เคลียร์หรือไม่
ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ก็ยังหาความผิดไม่ได้ จึงถือว่าถูกอยู่
- เรื่องทุจริตโครงการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้มูลมาว่ามีการทุจริตโดยมีข้าราชการประจำ และข้าราชการการเมืองเกี่ยวข้อง จนส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
เรื่องนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในระดับกระทรวงแล้ว โดยมีนาย วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นประธาน คณะกรรมการ ก็มีผลสรุปว่าไม่ผิด พร้อมกับส่งข้อมูลไป ก็ยังไม่เห็นมี อะไรที่บอกว่าผิด หรือมีข้อไหนที่ทำผิดไป
- กังวลหรือไม่หาก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าท่านมีความผิด
ก็ ไม่เป็นอะไร เพราะเราชี้แจงได้ แต่ตอนนี้ ป.ป.ช.ยังไม่เรียกไปชี้แจง แต่คนที่ไม่ผิดแสดงว่าไม่เคยทำอะไร เลย เพราะเรื่องบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็น่าจะมี แต่ก็ต้องชี้แจงกันไป
มันไม่ได้อยู่ที่ผม ในเมื่อผมไม่ได้ เป็นผู้ทำ เป็นเพียงผู้อนุมัติโครงการ ข้าราชการประจำมีหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องชี้แจง
- เสียงวิจารณ์ที่ไม่ใช่รัฐมนตรีตัวจริง เป็นเพียงแค่หุ่นเชิด
(หัวเราะ) ผมไม่เข้าใจว่าหุ่นเชิด กับตัวจริงแตกต่างกันตรงไหน เพราะผมก็มีสิทธิ์และศักดิ์ทุกอย่างเต็ม อัตรา ระหว่างที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ที่กระทรวง เสียงวิจารณ์ต่าง ๆ ผมไม่ค่อยสนใจ
- ยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง
(สวนทันที) ผมไปไหน ผมไปใกล้ชิดกับประชาชนตลอดเวลา ไม่เห็นมีใคร มาเชิดผมเลย
0 comments:
Post a Comment